No Rules Rules : คนทำงานเก่งของ Netflix เขาทำงานกันอย่างไร

No Rule Rule กฎที่ไม่มีกฎ เป็นหนังสือที่เขียนโดย รีด เฮสดิงส์ ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Netflix และ เอริน เมเยอร์ นักเขียนชื่อดัง ซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญอย่างมากในวงการหนังสือแนวพัฒนาตนเองและธุรกิจ ถ้าจะให้อธิบายแบบสั้นๆ คงต้องบอกว่าหนังสือเล่มนี้รวบรวมเคล็ดลับและแนวคิดการทำงานแบบสุดขั้วของบริษัทที่ก้าวหน้าและใหญ่เป็นลำดับต้นๆ ของโลกอย่าง Netflix เอาไว้นั่นเองคนที่ ทำงานเก่ง ตามแบบฉบับของ Netflix เขามีวิธีคิดอย่างไร Netfilx ทำอย่างไรจึงรวบรวมพวกหัวกะทิระดับโลกไว้ได้มากมาย เราจะพาทุกคนไปรู้จักเคล็ดลับการทำงานเก่งตามแบบฉบับ Netflix กันค่ะ

ชวนส่องหนังสือ No Rules Rules: กฎที่นี่คือไม่มีกฎ ของ Netflix ทำงานเก่ง เขาทำกันอย่างไร

• กฎข้อแรก : ให้ค่าจ้างสูงสุดในตลาด

ถ้าคุณอยากให้บริษัทเจริญก้าวหน้าและพัฒนาอย่างรวดเร็วชนิดที่คู่แข่งตามไม่ทันก็จำเป็นจะต้องรวบรวมคนที่เก่งที่สุดในทุกสายงานมาไว้ที่เดียวกัน สิ่งดึงดูดใจลำดับแรกสำหรับพวกคนโคตรเก่ง(หรือที่จริงก็ทุกคนนั่นแหละ) คงหนีไม่พ้น “เงิน” 

ทำงานที่ Netflix คุณจะไม่ได้รับโบนัส ค่าคอมมิชชั่น เงินประจำตำแหน่ง หรืออะไรต่างๆ ที่เรารู้จักกัน แต่คนทำงานเก่งแบบ Netflix จะได้รับเงินเดือนที่สูงที่สุดในตลาดแรงงานตามตำแหน่งของเขา โดยเงินเดือนที่ได้รับ จะรวมเงินพิเศษทุกอย่างที่บริษัททั่วไปมักแยกจากเงินเดือนเพื่อไม่ต้องจ่ายหากพนักงานทำงานไม่ได้ตามเป้าหรือผลประกอบการไม่ดี แต่การทำงานที่ Netflix การันตีเงินเดือนสูงสุดในตลาดแรงงานโดยไม่คำนึงถึงผลประกอบการรายปีให้คุณไปเล้ยย!!

สาเหตุที่ทำแบบนี้เพราะ Netflix เน้นการทำงานแบบ Agile Midnset ที่ไม่ต้องการให้พนักงานมัวแต่กังวลการทำตามมาตรวัด KPI หรือผลประกอบการบริษัท ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าดึงดูดใจให้คนทำงานเก่งมาสมัครสักเท่าไหร่ แถมยังขัดขวางพลังความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย

• กฎข้อที่สอง : จงพูดตรงๆ

วัฒนธรรมการพูดตรงๆของ Netflix ช่วยให้การทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลองนึกภาพของทีมที่มีคนแม้เพียง 1 คน คอยเป็นตัวถ่วงคนอื่นอยู่ตลอดเวลาดูสิ ถึงแม้คนอื่นในทีมจะเป็นคนที่ทำงานเก่งแค่ไหน ทีมนั้นก็ย่อมต้องเสียเวลาและทรัพยากรของคนอื่นไปกับการคอยประคองคนที่มีความสามารถระดับกลางๆ โดยไม่จำเป็น การพูดตรงๆ ช่วยให้ทุกคนในทีมรู้ข้อดีข้อเสียของตนเองและนำไปสู่การพัฒนาในที่สุด สำหรับการทำงานที่ Netflix ถ้าคุณเห็นข้อบกพร่องของเพื่อนร่วมงาน หรือมีคอมเมนต์แต่ไม่บอกเท่ากับคุณไม่รักษาผลประโยชน์ของบริษัทและคุณจะถูกไล่ออกจาก Netflix พรุ่งนี้เลย

แต่การพูดตรงๆ ไม่เท่ากับการด่าหรือพูดจาเหยียดหยามประชดประชัน ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ให้คนที่ถูกคอมเมนต์นำไปพัฒนาตนเองได้ ในการทำงานที่ Netflix มีกฎว่า ถ้าคุณจะพูดกับใครตรงๆ ก็ให้แน่ใจเสียก่อนว่าสิ่งที่คุณพูดนั้นทำไปด้วยความหวังดีทั้งต่อตัวคนที่คุณให้คอมเมนต์และบริษัท ถ้าไม่ทำตามบริบทนี้ต่อให้ทำงานเก่งแค่ไหนคุณก็จะถูกไล่ออกจาก Netflix อยู่ดี

• กฎข้อที่สาม : ถ้าไม่อยากรั้งเขาไว้ก็ไล่เขาออกซะ!!!

สำหรับบริษัททั่วไปการจะไล่พนักงานออกสักคน คนคนนั้นจะต้องทำผิดอะไรบางอย่างซะก่อน แต่ถ้าคุณทำงานที่ Netflix รีดได้ให้คำแนะนำแก่หัวหน้าและผู้บริหารทุกคนระดับเอาไว้ว่า “ให้ลองนึกภาพลูกน้องของคุณมาขอลาออกไปทำงานที่อื่น แล้วถามตัวเองว่าฉันจะรั้งเขาไว้ไหม ถ้าคำตอบคือไม่ ก็ให้เงินเลิกจ้างก้อนโตแล้วไล่เขาออกไปเลย”

อย่างที่รู้กันดีว่าการจะทำงานที่ Netflix ได้นั้นคุณจะต้องโคตรทำงานเก่ง แต่การทำงานเก่งนั้นกินความหมายกว้างมาก และแต่ละหน้าที่ก็ต้องการทักษะไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นมันก็เป็นหน้าที่ของหัวหน้างานที่จะต้องตัดสินใจว่า สมาชิกแต่ละคนช่วยให้งานประสบความสำเร็จสูงสุดหรือไม่ ถ้าใช่ก็รั้งเขาไว้ ถ้าไม่ก็ไล่เขาออกพรุ่งนี้เลย

• กฎข้อที่สี่ : ยกเลิกกฎทั้งหมดและใช้บริบทนำ

ที่ Netflix ไม่มีทั้งกำหนดวันลาและการอนุมัติค่าใช้จ่าย หรือกฎหยุมหยิมอะไรอีกมากมาย จริงๆแล้วมันแทบจะไม่มีกฎอะไรเลย

ถ้าอยากได้คนที่ทำงานเก่งก็ต้องสร้างสิ่งดึงดูดใจให้มากขึ้นอีก นอกจากค่าจ้างที่สูงที่สุดแล้ว อะไรจะดีไปกว่าบริษัทที่จะลาพักร้อนนานหรือบ่อยแค่ไหนก็ได้ พนักงาน Netflix จะลาพักร้อน ใช้จ่ายเงินของบริษัท หรือทำอะไรก็ได้ตราบเท่าที่ยังทำผลงานได้ดีเยี่ยม เนื่องจากแต่ละแผนกเงื่อนไขในการทำงานแตกต่างกัน Netflix จึงไม่ออกกฎที่ใช้ครอบคลุมแต่เน้นให้หัวหน้างานพูดคุยกับทีมเพื่อทำความเข้าใจในเงื่อนไขต่างๆ ของหน้าที่ตัวเองและปรับใช้ให้เหมาะสมตามแต่ละแผนก ซึ่งสิ่งนี้ทำให้คนที่ทำงานเก่งและต้องทำผลงานให้ดีเยี่ยมตลอดไม่รู้สึกเครียดจนเกินไป เป็นการสร้างบริษัทให้เหมือน co-working space มากกว่าเป็นบริษัท

• กฎข้อที่ห้า : เปิดเผยข้อมูลให้มากที่สุด

เนื่องจาก Netflix เน้นการทำงานโดยใช้บริบทไม่ใช่กฎ การที่จะทำให้พนักงานแต่ละคนทำงานได้อย่างดีเยี่ยม รู้ว่าควรใช้จ่ายเงินของบริษัทอย่างไร หรือควรลาพักตอนไหน ก็จำเป็นจะต้องให้ข้อมูลให้เพียงพอเพื่อที่พนักงานเหล่านั้นจะได้ตัดสินใจได้ถูกต้อง ที่ Netflix จึงเปิดเผยข้อมูลเกือบทุกอย่างให้พนักงานทุกคนรู้ แม้แต่ข้อมูลที่อ่อนไหวอย่างผลประกอบการบริษัท

เมื่อมีข้อมูลเพียงพอ ได้รับอิสระ และได้ค่าจ้างสูงที่สุด มันก็ไม่ยากเลยที่จะดึงดูดเหล่าคนโคตรเก่งให้มาทำงานที่ Netflix และนี่คือส่วนหนึ่งในกฎแบบ No Rule Rule ที่ใช้กันที่ Netflix

สำหรับใครที่อ่านมาจนถึงตรงนี้แล้ว อยากหา No Rules Rules มาอ่านกันบ้าง ลองคลิกไปช้อปออนไลน์กันได้เลยที่ ….

ฉบับภาษาไทย :

ช้อปออนไลน์ได้ที่ Lazada

[affegg id=3697]

ช้อปออนไลน์ได้ที่ Shopee

[affegg id=3698]

ฉบับภาษาอังกฤษ :

ช้อปออนไลน์ได้ที่ Lazada

[affegg id=3699]

ช้อปออนไลน์ได้ที่ Shopee

[affegg id=3700]

Inspire Now ! : โลกเราทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อะไรที่เคยใช้ได้เมื่อครั้งอดีตอาจไม่ประสบผลสำเร็จอีกแล้วในยุคปัจจุบัน บริษัทที่จะเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วจำเป็นจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร และกล้าที่จะลงมือทำแบบแตกต่างอย่างสิ้นเชิงแบบที่ Netflix ได้แสดงให้เราเห็นผ่าน No Rules Rules

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันอยากเป็นคนที่ดีกว่าเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกทุกวันนี้กันบ้างไหมคะ? เพื่อนๆ มีอะไรอยากแชร์เกี่ยวกับที่ทำงานของตัวเองทั้งเรื่องดีและไม่ดี มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ ♡