คนเรากินอาหารกันอยู่ทุกวัน แต่อาจจะไม่รู้ว่าในแต่ละวันนั้นเราได้รับอาหารครบหมู่หรือไม่ ด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคนในยุคสมัยปัจุจุบันส่งผลให้เรากินอาหารแบบเร่งด่วนมากขึ้น และใส่ใจในเรื่องของโภชนาการน้อยลง ซึ่งนั่นอาจจะนำมาถึงการเจ็บป่วยต่างๆ ได้ เพราะฉะนั้น เพื่อสุขภาพกายที่ดีและเป็นหนึ่งในวิธีการดูเเลตัวเอง เราจะพาไปรู้จักว่า อาหารมีกี่หมู่ ? แต่ละหมู่มีอะไรบ้างและให้ประโยชน์อย่างไร
อาหารมีกี่หมู่ ? เลือกกินอย่างไรให้ถูกต้องครบถ้วน
ก่อนเราจะไปรู้ถึงประโยชน์ของอาหาร 5 หมู่นั้น เรามารู้จักกันให้ดีก่อนว่าอาหารมีกี่หมู่ ? ทุกคนจำการเรียนรู้เกี่ยวกับกลุ่มอาหารในสมัยที่เรียนในโรงเรียนกันได้ไหมคะ แต่ถ้าใครเริ่มลืมเลือนและไม่แน่ใจ เราจะมาเตือนความจำความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกลุ่มอาหารกันค่ะ
ถ้าถามว่าอาหารมีกี่หมู่ ก็ต้องตอบแบบเสียงดังฟังชัดเลยว่า อาหารมีห้าหมู่ด้วยกันค่ะ หรือเรียกว่าห้ากลุ่ม กลุ่มอาหารทั้งห้านั้นได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต เกลือแร่ วิตามิน และไขมัน และประโยชน์ของอาหาร 5 หมู่นั้นก็มีมากมายล้วนแล้วแต่ดีต่อร่างกายทั้งสิ้น ทั้งช่วยในเรื่องการเจริญเติบโต ซ่อมแซมต่างๆ ภายในร่างกาย เสริมสร้างสุขภาพโดยรวม อาหารแต่ละกลุ่มนั้นประกอบด้วยอาหารที่หลากหลายซึ่งคล้ายกันในด้านโภชนาการ และแต่ละกลุ่มก็มีบทบาทสำคัญในรูปแบบการกินเพื่อสุขภาพโดยรวมทั้งสิ้น เรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าอาหารทั้งห้าหมู่นั้นมีอะไรบ้างพร้อมประโยชน์ดีๆ ที่เราจะได้รับ
-
โปรตีน
Image Credit : basic-fit.com
อาหารกลุ่มโปรตีน ได้แก่ เนื้อสัตว์ต่างๆ อย่างสัตว์เนื้อแดง เช่น เนื้อวัว เนื้อแกะ สัตว์เนื้อขาว เช่น หมู ไก่ และไก่งวง รวมถึงปลา อาหารทะเล นม ชีส และไข่ และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาจากเนื้อสัตว์ ได้แก่ พืชตระกูลถั่วและเต้าหู้ อาหารกลุ่มนี้อุดมไปด้วยโปรตีน ธาตุเหล็ก สังกะสี ไอโอดีน วิตามิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง B12 และกรดไขมันจำเป็น ซึ่งล้วนแล้วแต่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย
ประโยชน์ของโปรตีน : โปรตีนทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบในการสร้างกระดูก กล้ามเนื้อ กระดูกอ่อน ผิวหนัง และเลือด และยังเสริมสร้างเอนไซม์ ฮอร์โมน และวิตามินอีกด้วย ช่วยปลดปล่อยพลังงานและมีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบประสาท ช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและช่วยสร้างเนื้อเยื่อ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างถูกต้อง และกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่พบในอาหารทะเลจะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ รวมถึงนม โยเกิร์ต ชีส เป็นแหล่งอาหารหลักของแคลเซียมที่มีความสำคัญสำหรับกระดูกและฟันที่แข็งแรง
-
คารโบไฮเดรต
อาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต ได้แก่ ข้าว มันเทศ ควินัว ข้าวโพด และธัญพืชต่างๆ รวมถึงขนมปัง พาสต้า บะหมี่ และอาหารที่ทำจากแป้งอื่นๆ ซึ่งร่างกายใช้เป็นพลังงาน ตัวเลือกที่ดีที่สุดจากกลุ่มนี้คือขนมปังโฮลวีตและโฮลเกรน ข้าวกล้อง พาสต้าโฮลเกรน เป็นต้น เพราะมีใยอาหารและวิตามินสูง ให้ประโยชน์มากกว่าธัญพืชไม่ขัดสี และช่วยให้รู้สึกอิ่มโดยไม่ต้องให้แคลอรี่มาก
ประโยชน์คารโบไฮเดรต : การเลือกกินธัญพืชไม่ขัดสีเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อสุขภาพที่จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิด ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ป้องกันโรคอ้วนและเบาหวานชนิดที่ 2 และป้องกันอาการท้องผูก นอกจากนี้คาร์โบไฮเดรตยังเป็นแหล่งพลังงานหลักให้แก่ร่างกายอีกด้วย
-
เกลือแร่
อาหารกลุ่มเกลือแร่ ได้แก่ ผักชนิดต่างๆ ผักที่มีสีต่างกันทำให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่มีคุณค่ามากมาย เช่น ไฟเบอร์ โฟเลต โพแทสเซียม วิตามินเอ และวิตามินซี ในขณะที่พืชตระกูลถั่วก็มีเกลือแร่สูงเช่นกัน ถั่วมีสารอาหารหนาแน่น มีพลังงานต่ำ และเป็นแหล่งแร่ธาตุและวิตามินที่ดี เช่น แมกนีเซียม วิตามินซี ใยอาหาร และสารพฤกษเคมีหลายชนิด รวมทั้งแคโรทีนอยด์
ประโยชน์เกลือแร่ : อาหารที่อุดมด้วยใยอาหารได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์หลายอย่าง รวมทั้งลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ รวมถึงสารอาหารอย่างโฟเลตในผักต่างๆ จะช่วยลดความเสี่ยงของผู้หญิงที่จะมีบุตรที่มีความบกพร่องทางสมองหรือไขสันหลัง และโพแทสเซียมช่วยรักษาความดันโลหิตให้แข็งแรงได้
-
วิตามิน
อาหารกลุ่มวิตามิน ได้แก่ ผลไม้ต่างๆ ผลไม้เป็นแหล่งวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระมากมายที่ช่วยปกป้องเราจากโรคเรื้อรัง และสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ควรเลือกกินผลไม้สีต่างๆ กันจะเพิ่มสารอาหารที่หลากหลาย ซึ่งสามารถเสริมสร้างสุขภาพของเราได้ แต่ไม่แนะนำให้กินผลไม้แห้งเป็นประจำเพราะพลังงานสูง และน้ำผลไม้ควรดื่มเป็นครั้งคราวเท่านั้นเนื่องจากมีความเป็นกรดและอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการกัดเซาะของฟันได้ ซึ่งน้ำผลไม้ยังมีไฟเบอร์และสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายน้อยกว่าผลไม้ทั้งผลอีกด้วย
ประโยชน์วิตามิน : ผลไม้ส่วนใหญ่ให้พลังงานต่ำและมีไฟเบอร์และน้ำสูงทำให้เรารู้สึกอิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการกินอาหารมากเกินไปและทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ไฟเบอร์ในผลไม้ยังช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิดรวมทั้งมะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้ผลไม้อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และไฟโตเคมิคอล ช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจและหลอดเลือด โพแทสเซียมและแมกนีเซียมที่พบในผลไม้ยังเชื่อมโยงกับความดันโลหิตต่ำอีกด้วย และผลไม้สีส้ม สีแดง และสีเหลือง มีแคโรทีนหรือวิตามินเอที่ช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
-
ไขมัน
อาหารมีกี่หมู่นั้น อาหารกลุ่มไขมันคือหมู่สุดท้ายหรือหมู่ที่ห้า ได้แก่ น้ำมันจากพืช น้ำมันจากสัตว์ เนย นม ชีส และไขมันจากเนื้อสัตว์ เช่น มันหมู หนังไก่ ซึ่งไขมันก็เป็นกลุ่มอาหารที่จำเป็นเพราะช่วยให้เราเติบโตและปกป้องอวัยวะ แต่จะต้องการเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพราะให้พลังงานสูง โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู หนังไก่ เนย ชีส และน้ำมันมะพร้าว การกินไขมันเหล่านี้มากเกินไปอาจทำให้เราเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ รวมถึงทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้น หากเผลอกินไปแล้วอย่าลืมออกกำลังกายลดต้นขา สะโพกกันเป็นประจำด้วยนะคะ
ประโยชน์ไขมัน : ไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย คือไขมันในกลุ่มไม่อิ่มตัวหรือไขมันดี ส่วนใหญ่มาจากผัก ถั่ว เมล็ดพืช ปลา น้ำมันมะกอก น้ำมันถั่วลิสง น้ำมันคาโนลา และอะโวคาโด รวมทั้งน้ำมันดอกคำฝอยและน้ำมันดอกทานตะวันที่มีโอเลอิกสูง ช่วยลดอัตราการเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด ช่วยสร้างเยื่อหุ้มเซลล์และหุ้มเส้นประสาทที่จำเป็นสำหรับการแข็งตัวของเลือด การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและต้านการอักเสบ ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลดีและช่วยลดไตรกลีเซอไรด์อีกด้วย และกรดไขมันโอเมก้า 6 ยังเชื่อมโยงกับการป้องกันโรคหัวใจเช่นกัน
Inspire Now ! : หลังจากได้คำตอบกันไปแล้วว่าอาหารมีกี่หมู่ เรามีตัวอย่างมื้ออาหารที่ครบทั้งห้าหมู่มาแนะนำกันด้วยค่ะ
มื้อเช้า – แซนด์วิชขนมปังโฮลเกรน เพิ่มไข่ต้ม อะโวคาโด และผักตามชอบ พร้อมด้วยนม 1 แก้ว และผลไม้สด 1 จาน
มื้อกลางวัน – ข้าวกล้อง กับเมนูผัดผักหรือต้มจืด และใส่เนื้อสัตว์ต่างๆ ตามชอบ ตามด้วยสมูธตี้ผลไม้ 1 แก้ว และตบท้ายด้วยของว่างอย่างถั่ว 1 อุ้งมือ
มื้อเย็น – ปลาแซลมอนย่าง กับสลัดผักเต้าหู้ย่าง กินคู่กับมันฝรั่งอบ พร้อมด้วยโยเกิร์ตใส่ผลไม้สดและธัญพืช 1 ถ้วย
การกินอาหารให้ครบห้าหมู่นั้นนอกจากจะได้ประโยชน์ของอาหาร 5 หมู่ที่ดีต่อสุขภาพและร่างกายของเราแล้ว อาหารที่ดียังช่วยในการรักษาและป้องกันโรคต่างๆ ได้อีกด้วย เช่น รักษาอาการแพนิค เป็นต้น |
DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันได้คำตอบใช่หรือไม่ว่าอาหารมีกี่หมู่ รู้อย่างนี้แล้วต่อจากนี้ในทุกๆ มื้ออย่าลืมเลือกอาหารให้ครบหมู่กันด้วยนะคะ ♡
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : health.harvard.edu, ahealthiermichigan.org, eatforhealth.gov.au, oneyouleeds.co.uk