ความหมายของความรักจริงๆ แล้วคืออะไร ? แบบไหนควรค่าแก่การรักษา

ความรักเป็นความรู้สึกที่ซับซ้อนเพราะนำมาซึ่งความสุขและความทุกข์ในเวลาเดียวกัน บางคนอยากมีความรักมากจนพึ่งสายมู ตระเวนดูดวงความรักในอนาคต บางคนก็พอใจจะเป็นโสดแต่แอบเหงา แต่ไม่ว่าจะเป้นรักแบบไหนหากเรารักเป็น รักก็จะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ให้กับเราได้ แล้วแบบนี้จริงๆ แล้ว ความหมายของความรัก คืออะไรกันแน่ แบบไหนคือรักที่ดี แบบไหนคือรักที่แย่และไม่ควรค่าแก่การรักษาเอาไว้ DIY INSPIRE NOW ขอชวนสาวๆ มาค้นหา ความหมายของคำว่ารักไปพร้อมกันค่ะ

ความหมายของความรัก คืออะไร?

ความรัก หมายถึง ความรู้สึกและสภาพอารมณ์ต่างๆ ที่แสดงออกถึงการดึงดูดซึ่งกันและกัน อาจไม่ได้มีความหมายในเชิงโรแมนติกอย่างเดียว โดยมนทางปรัชญาความรักหมายถึงความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ และความเสน่หาของมนุษย์ นอกจากนี้ความหมายของความรักยักหมายถึง สภาพอารมณ์และความดึงดูดทางเพศระหว่างบุคคลไปจนถึงความใกล้ชิดทางอารมณ์ได้ด้วย ดังนั้นนิยามความหมายของคำว่าความรักจึงไม่แน่นอน แต่ขึ้นอยู่กับอารมณ์ ทัศนคติ และประสบการณ์ในชีวิตของแต่ละคน ส่วนในทางวิทยาศาสตร์ ความรัก หมายถึงสภาพที่เกิดมาจากการวิวัฒนาการของมนุษย์โดยมีพื้นฐานมาจากสัญชาตญาณการเอาตัวรอดและการอยู่ร่วมกันเป็นสังคมเพื่อต่อต้านภัยคุกคามต่างๆ รวมถึงเพื่อให้เกิดการสืบพันธุ์เพื่อดำงเผ่าพันธุ์ต่อไปด้วย

มารู้จักกับความรัก 8 ประเภทกันดีกว่า

1. รักไร้เงื่อนไข

ความรักประเภทนี้คือรักที่ไร้เงื่อนไข ไม่มีความเห็นแก่ตัว เป็นความรักที่เกิดมาจากจิตวิญญาณ อาจไม่ได้หมายถึงรักแบบคนรักเสมอไป แต่ยังใช้นิยามความรักของบิดามารดาที่มีต่อบุตร หรือความรักและความปรารถนาดีที่เรามีให้คนอื่นๆ ไปจนถึงการปรารถนาให้คนอื่นมีความสุขก็นับเป็นรักประเภทนี้ได้เช่นกัน

2. รักโรแมนติก

รักโรแมนติกหรือที่ชาวกรีกเรียกว่ารักแบบ Eros นั้นเป็นความรักที่มีเรื่องความดึงดูดทางเพศเข้ามาเกีย่วข้อง เป็นความรักแบบคนรัก มีความหลงใหลและความเสน่หาทั้งทางกายและใจ รักแบบนี้มีพลังมาก หากนำพลังเหล่านั้นไปใช้ในทางที่ดีก็จะเป็นแรงผลักดันให้เราทำสิ่งดีๆ หรือพัฒนาไปเป็นรักที่มั่นคงได้ แต่หากพลังนั้นกลับกลายเป็นพลังทางลบความรักประเภทนี้ก็อาจทำร้ายเราและคนรอบข้าง หรือกลายเป็นเป็นความรักแบบคลั่งรักได้เช่นกัน

3. รักที่เท่าเทียม

ความหมายของความรักที่เท่าเทียมก็คือความรักที่เรามอบให้เพื่อนมนุษย์หรือเพื่อนๆ ที่อยู่รอบตัวเรา เป็นการมองคนอื่นๆ ว่าเท่าเทียมกับเราในฐานะมนุษย์คนหนึ่งโดยไม่มีเรื่องแรงดึงดูดทางเพศมาเกี่ยวข้อง

4. รักตัวเอง

ความรักตัวเองในนิยามของคำว่ารักไม่ได้มีความหมายทางลบนะคะ เพราะการที่เราจะรักคนอื่นได้นั้นก็ต้องเริ่มมาจากการรักตัวเองก่อน การรักตัวเองคือการมองเห็นคุณค่าภายในตัวเอง เข้าใจ และดูแลตัวเองให้มีความสุข ความสงบอยู่เสมอ หากเราเรียนรู้ที่จะรักตัวเองได้แล้วหล่ะก็ เราก็จะสามารถเผื่อแผ่ความรักให้คนอื่นได้ค่ะ

5. รักแบบครอบครัว

ความหมายของความรักแบบครอบครัวก็คือความรักที่มอบให้แก่คนรอบตัวหรือสมาชิกในครอบครัว จึงมีความคล้ายคลึงกับความรักแบบเท่าเทียมอยู่เล็กน้อยแต่มีความทรงพลังยิ่งกว่า เพราะมีเรื่องของความใกล้ชิดและความผูกพันมาเกี่ยวข้อง เป็นรักแบบที่ไร้เงื่อนไข ไม่ต้องการสิ่งตอบแทนใดๆ ไม่มีความรู้สึกทางเพศหรือแรงดึงดูดทางกายมาเกี่ยวข้อง

6. รักที่มั่นคง

ความรักที่มั่นคงเป็นความรักที่เรียบง่าย ไม่หวือหวา อาจพัฒนามาจากความรักแบบหลงใหลก็ได้ ความรักแบบนี้คือการรักอย่างเข้าใจ เท่าเทียม และให้เกียรติ อาจหมายถึงคนรักที่อยู่ร่วมกันมานานจนความร้อนแรงลดลงแต่ยังคงมีความผูกพันและให้เกียรติกัน หรืออาจหมายถึงคู่รักที่อยู่ร่วมกันโดยมองอนาคต มีการวางแผนร่วมกัน เน้นความสัมพันธ์แบบยั่งยืน

7. รักสนุก ไร้ความผูกพัน

ความรักแบบนี้เป็นความหมายของความรักที่ตรงข้ามกับรักที่มั่นคง เพราะเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและจางหายไปเร็ว เน้นสนุกแต่ไม่ผูกพัน อย่างไรก็ตามรักประเภทนี้ก็สามารถพัฒนาไปเป็นรักแบบหลงใหลและรักที่มั่นคงได้เช่นกันค่ะ

8. คลั่งรัก

อาการคลั่งรักเป็นอาการที่เราถูกความรักทำร้าย ไม่ว่าจะเป็นรักทำให้ตาบอด ทำร้ายตัวเอง ทำให้เกิดความหึงหวงหรือต้องทนทุกข์ แต่ก็ไม่สามารถพาตัวเองออกไปจากวังวนของความรักได้ ความรู้สึกเหล่านี้จัดอยู่ในความรักรูปแบบนี้ทั้งสิ้น ถือเป็นความสัมพันธ์ที่ Toxic และไม่ควรค่าแก่การยื้อไว้ ใครที่ต้องทุกข์เพราะรักแบบนี้ลองถอยออกมา ทำใจให้สงบและพิจารณาความรู้สึกที่แท้จริงของเราดูนะคะ หรือจะลองอ่านบทความข้อคิดความรักเพื่อมองหาแนวคิดดีๆ ก็ได้ บางครั้งการออกมาจากความรักแย่ๆ ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันอยากมีความรักใช่ไหม ? ได้รู้แล้วว่าความรัก หมายถึงอะไร สาวๆ นิยามคำว่ารักแบบไหนบ้างคะ มาแชร์ความหมายของคำว่ารักในแบบตัวเองทางคอมเมนต์ได้เลย

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : lifehack.org, th.wikipedia.org